head prakardsod




































































ผู้เขียน หัวข้อ: รักษาโรคเบาหวานหายขาดไม่ได้ แต่คุมโรคได้เองด้วย 7 วิธีนี้  (อ่าน 17 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 634
  • ผู้ผลิตขายส่ง โพสฟรี SEO
    • ดูรายละเอียด
รักษาโรคเบาหวานหายขาดไม่ได้ แต่คุมโรคได้เองด้วย 7 วิธีนี้

เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องค่ะว่า โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด) แม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมให้อยู่ในภาวะสงบและใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขได้ โดยหัวใจสำคัญคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ

นี่คือ 7 วิธีหลัก ที่ช่วยให้คุณควบคุมโรคเบาหวานด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1. ควบคุมการเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรต

คาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารหลักที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือดเร็วที่สุด จึงต้องเลือกชนิดและปริมาณอย่างระมัดระวัง

เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: รับประทานธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ขนมปังโฮลวีท แทนข้าวขาวหรือแป้งขัดขาว เพื่อให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลช้าลง

ควบคุมปริมาณ: จัดสัดส่วนอาหารตามหลักการ จานอาหารสุขภาพ (เช่น สูตร 2:1:1 คือ ผัก  4:2  ส่วน, ข้าว/แป้ง 4:1  ส่วน, โปรตีน  4:1  ส่วน)


2. ลด ละ เลิก อาหารและเครื่องดื่มรสหวานจัด

น้ำตาลที่เติมเข้าไปในอาหารและเครื่องดื่มเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลีกเลี่ยง: น้ำอัดลม, น้ำหวาน, ชา/กาแฟที่มีน้ำตาล, ขนมหวาน, เค้ก, และน้ำผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

ฝึกสั่งหวานน้อย: หากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ให้สั่ง หวานน้อย หรือเลือกใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลในปริมาณที่จำกัดและได้รับคำแนะนำจากแพทย์


3. เพิ่มการบริโภคใยอาหาร (ผักและผลไม้ที่ไม่หวาน)

ใยอาหาร (Fiber) จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลคงที่มากขึ้น

เพิ่มผัก: รับประทาน ผักใบเขียวและผักที่ไม่มีแป้ง ให้มากขึ้นในทุกมื้ออาหาร เช่น คะน้า, บรอกโคลี, มะเขือเทศ, หัวหอม

เลือกผลไม้: เลือกรับประทานผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวานจัดและมีกากใยสูงในปริมาณที่เหมาะสม เช่น แอปเปิล, ฝรั่ง, แก้วมังกร, เบอร์รี


4. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

การมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนจะทำให้เซลล์ร่างกายเกิด ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของเบาหวานชนิดที่ 2

ตั้งเป้าหมาย: ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (BMI 18.5−22.9 สำหรับคนเอเชีย)

การลดน้ำหนัก: การลดน้ำหนักเพียง 5−10% ของน้ำหนักตัวเดิม ก็สามารถช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้นมาก


5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อใช้กลูโคส (น้ำตาล) เป็นพลังงาน และช่วยเพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน

ประเภทที่แนะนำ: การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว, วิ่งเหยาะ, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ

ความถี่/ระยะเวลา: ควรออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ (เช่น 30 นาที ต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์) และควรมีการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อร่วมด้วย


6. ตรวจวัดระดับน้ำตาลและทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด

การควบคุมโรคจะทำได้ก็ต่อเมื่อทราบสถานะของโรคอยู่เสมอ และปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์

ตรวจน้ำตาล: หมั่นตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองที่บ้านตามคำแนะนำของแพทย์

ทานยา/ฉีดอินซูลิน: รับประทานยาเบาหวาน หรือฉีดอินซูลินตามขนาดและเวลาที่แพทย์กำหนด ห้ามหยุดยาหรือปรับลดยาเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์


7. จัดการความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ และงดปัจจัยเสี่ยง

ความเครียดและพฤติกรรมบางอย่างสามารถส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยตรง

ความเครียด: เมื่อเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ควรหากิจกรรมเพื่อ ผ่อนคลายความเครียด เช่น โยคะ, การทำสมาธิ

การพักผ่อน: นอนหลับให้มีคุณภาพและเพียงพออย่างน้อย 7−8 ชั่วโมงต่อคืน

งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (โดยเฉพาะที่ผสมน้ำตาล) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้โรคและภาวะแทรกซ้อนรุนแรงขึ้น ควรลด ละ เลิก อย่างเด็ดขาด